"ขณะเขียน ข้านึกถึงคนที่ได้จากไปแล้ว และคิดเกี่ยวกับคนที่กำลังจะกลับมา ว่าจะได้กลับมาหรือไม่? เราจะได้พบกันอีกหรือเปล่า? หรือเพียงแค่นั้นก่อนจากก็พอแล้ว หากเราพบกันอีก ก็ต้องจากกันอีก ทุกคนพบกันเพียงเพื่อลาจาก ข้าเข้าใจดี" |
ข้าเดินเล่นสู่ที่กว้าง สองเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสดิน บ่อยครั้งชีวิตข้านั้นมีความหนักหนาทางด้านอารมณ์มากเกินไป จิตใจข้าได้รับผลกระทบ และข้าไม่ได้หลบหรือหนีต่อสิ่งนี้ อาจเพราะข้าไม่มีที่ไป ข้าทำได้แค่หาโอกาส..เดินเล่น ข้าจะไม่คิดอะไรขณะออกเดิน ทีละก้าว ข้าสัมผัสลมหนาวผ่านผิวหนัง สัมผัสแสงผ่านดวงตา และสัมผัสอากาศผ่านการหายใจ มันทำให้ข้ารู้สึกเหมือน.บ้าน..นั้นอยู่ไกล้ๆ แม้คำว่าบ้านจะดูห่างไกลนักสำหรับข้า ข้าไม่ต้องการพร่ำเพ้ออะไรที่สวยงาม หรือบรรยายคำที่สวยหรูต่อสิ่งที่จะพูด หรือแม้กระทั่งชื่นชมดอกไม้หลากสีสัน ข้าคิดว่าแค่มองดู คงพอแล้ว แค่คิดในใจก็ดังมากพอที่ตัวข้าเองจะได้ยิน ข้าถามตนเองบ่อยครั้งในช่วงนี้ เป็นคำถามใหม่ๆที่ข้าคิดขึ้นมาหลังจากที่ข้าได้เรียนรู้หลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวข้าเองในปีนี้ ว่าทำไมใจข้าถึงยอมรับความทรมานได้ยากนัก ทำไมต้องทรมานทั้งที่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมข้าถึงไม่ปล่อยวางบางอย่างกับทำใจไม่ให้คิดมาก แต่ข้าก็ไม่ได้โทษใครหรืออะไรกับสิ่งใดหรอก ข้าเป็นคนใจดี ที่ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการคิดมากเพียงลำพัง และทุกข์ทรมานเพียงลำพัง แต่วันนี้ข้าไม่ได้คิดอะไร นอกจากเดินเล่นอยู่ท่ามกลางสีเขียวสบายตาของธรรมชาติ ข้าเห็นต้นไม้ พุ่มไม้ และสีสันสดใสต่างต่างของดอกไม้ บ้างก็รู้จักชื่อ-บ้างก็ไม่รู้จัก ผืนหญ้าห่อหุ้มเท้าทั้งสองของข้า แต่ข้าชอบเดินสัมผัสผืนดินที่สะอาดมากกว่า...
บางครั้งข้าเห็นเขา... ทั้งยามหลับตาและลืมตา เขาถามข้าเสมอว่าทำไม เธอต้องทำอย่างนั้น ทำไมเธอต้องทำอย่างนี้ และข้าก็ตอบเขาเสมอ.. เขาเป็นคนสุขุม ใจดี และดุร้าย ความร้ายกาจของเขาคือความเผด็จการต่อการดูแลคนของเขาที่มีมากมาย ทุกอย่างของเขานั้นเรียบร้อยเสมอ และมีความสะอาดอยู่ทุกที่ที่เขาเข้าไกล้ แม้กระทั่งตัวข้า มันจะสะอาดเสมอเมื่อเขาเข้าไกล้ และสัมผัส ดวงตาของเขามีสีน้ำเงิน บ้างก็สีเขียวเข้มหากต้องแสง เขาพูดน้อยเสมอ เน้นการกระทำมากกว่า แต่ข้ามักจะพูดเยอะและมากกว่าเขาตลอดเวลา เขาเคยพูดว่า แค่ฟังข้าพูดนั่นก็มากพอแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก "ชอบฟังข้าพูดเหรอ?" ข้าถามเขา และเขาตอบว่า "ใช่" สั้นๆบางครั้งก็พยักหน้าแทนคำพูด เขาพยายามสอนข้า ให้พูดได้หลายภาษา น่าแปลกที่เขามักเน้นภาษาที่หายาก ภาษาชนเผ่าต่างๆ หรือของสถานที่ที่อยู่ห่างไกลออกไป ไกลจนคนทั่วไปไม่อาจรู้ว่าพวกเขาสื่อสารกันด้วยภาษาอะไร ข้าถามว่า"เพราะอะไร" เขาบอกข้าว่า "หากวันใดเธออยากพัก หรือหนีจากบางสิ่ง บางสิ่งที่หนักหนาจนเธอแบกเอาไว้ไม่ไหว เธอควรจะไป ในที่ไกลๆ ไกลมากพอที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ" และเขาสอนข้าเพิ่มว่า "ภาษาพวกนี้ไม่ใช่ภาษาหลักของคนเรา แต่เป็นภาษาที่ควรรักษา ยิ่งเก่า เรื่องราวยิ่งมีมาก วันใดหากเธอได้ไปที่นั้นๆและพูดคำว่า สวัสดี ในภาษาของเขา เธอก็จะมี -ดินแดน- ของเธอเพิ่มมากขึ้น" และข้าพยักหน้า
ดอกไม้สีขาวไม่เหมาะกับข้า ข้าไม่เหมาะสมกับมัน แต่ถ้าถามว่าข้าชอบดอกไม้สีอะไร คำตอบคือ สีฟ้าสดใส หรือน้ำเงินสดใส 💙 เมื่อไม่นานมานี้ ข้าได้ข่าวเกี่ยวกับเขา เขาก้าวหน้าและมีความยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้นในโลกของเขา โลกที่น่ากลัวและอยู่ยากสำหรับคนธรรมดาอย่างเรา และข้าชื่นชมเขาอยู่ที่ไกลๆตรงนี้... มีคนบอกข้าว่า เขายังคงไม่มีใครเพราะเขาดูเหมือนไม่มีสิ่งใดสามารถเข้าถึงได้ สูงส่งและดุดัน และเพราะเขาไม่สนใจใคร ข้าคิดว่าเขายังเป็นเพียงวัยรุ่นคนหนึ่งที่ภาระหน้าที่ทำให้เป็นผู้ใหญ่ แต่ข้าก็ได้เห็นเขาในหลายๆด้านของจิตวิญญาณมาก่อนแล้ว และข้าดีใจที่ได้เรียนรู้สิ่งนั้น ข้าเชื่อว่าสักวันเขาจะได้พบคนที่จะสามารถ รัก และข้าเองก็จะดีใจที่ได้รู้ เพราะนั่นหมายถึงเขามีความสุขมากๆแล้ว ข้ายังคงคิดเสมอว่าเขาอาจยังคงคิดเกี่ยวกับข้า -บ้าง เพราะข้าเป็นสิ่งบางอย่าง ไม่ใช่สิ่งที่จะลืมเลือนได้ง่ายๆ และข้าเข้าข้างตนเองเสมอว่าเขาคิด เกี่ยวกับข้า... สหายตัวน้อยๆจากดินแดนเล็กๆที่ห่างไกล
ผู้ที่เคยใช้บางสิ่งเป็นอาวุธและสองมือจับสิ่งนั้นแน่น เพื่อวิ่งไป หาเขา และแทง ปักลงตรงที่ซึ่งหัวใจของเขานั้นเต้นอยู่ และเพราะเขารู้ว่าข้าไม่อาจทำสำเร็จ นั่นหมายถึงมันไม่ลึกพอจะสัมผัสหัวใจ เขาจึงยอมให้ข้าได้ทำมัน... จากวันนั้นถึงวันนี้ เขายังคงอยู่ในที่ที่ไกลเหลือเกินจากข้า และพกพาแผลนั้นที่ข้าได้ฝากไว้ติดตัวอยู่เสมอ ตลอดเวลา และข้าหวังว่าเขาจะให้อภัยข้าบ้างแล้ว ในตอนนี้
ลักษณะของดอกไม้ที่มีขนาดเล็กๆนั้นข้าชอบมัน เพราะเมื่อมันอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือมีเยอะมาก มันสวยดีนะ ข้าคิดอย่างนั้น 💚 เขาเป็นคนที่ดี แต่คนเรามักแปลกเสมอ เหตุผลที่ต้องทำลายกันและกันนับวันยิ่งน้อยลงทุกที ทำไมข้าถึงทำร้ายเขาน่ะเหรอ? มันเป็นบาปส่วนตัวของข้าที่ข้าเลือกจะเก็บเอาไว้ ลึกลงในสุสานของใจข้าที่มีพื้นที่มากมายแต่ก็ไกล้จะเต็มแล้วหลังจากที่ล่าสุดข้าได้เก็บผู้เป็นมารดาของข้าลงไปในนั้นอีกคน ข้าได้แต่แอบหวังเพียงเล็กน้อย ว่าเขาจะยังคงคิดเกี่ยวกับข้า แม้ไม่อาจให้อภัยข้า หรือเกลียดข้า ข้าก็เต็มใจยอมรับมันด้วยความจริงใจ เพราะข้านั้นยังคงคิดเกี่ยวกับเขาเสมอ เช่นเดียวกันกับที่ข้ายังคงคิดถึงสหายคนอื่นๆที่ได้จากไปแล้วตลอดกาล หรือจากไปอยู่ในที่ที่ไกลห่างจากข้านั่นเอง สำหรับคนที่จากไปแล้วตลอดกาล สวรรค์คือบ้านของพวกเขา พวกเขาได้พักผ่อนแล้ว ส่วนคนที่ยังอยู่นั้น ข้าหวังเสมอว่าชีวิตของเขาพวกจะดี ตลอดไป
และแล้ว...
การเดินเล่นของข้า ที่คิดไว้ว่า วันนี้จะไม่คิดอะไรเพราะมาเดินเล่นนั้น สุดท้ายแล้ว ข้าก็ยังคงคิด.
.................................................................................................................................
©salinsiree
...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น