มันเริ่มต้นจากการมีความรู้สึก รู้สึก-คือการยืนยันตนว่ามีหัวใจ มีความทรงจำที่ใจปราถนาและซื่อสัตย์ เมื่อฝังใจ หัวใจก็จะจดจำ
.......................................................................... h e art- ........................................................................... |
มันเริ่มต้นจากการมีความรู้สึก รู้สึก-คือการยืนยันตนว่ามีหัวใจ มีความทรงจำที่ใจปราถนาและซื่อสัตย์ เมื่อฝังใจ หัวใจก็จะจดจำ
เล่าว่า : เวลาทำให้เกิดหลุมของความทรงจำ บางช่วงเวลาของชีวิตที่มีเรื่องราวดีๆได้ตกหลุมพรางเหล่านั้นไป และตนไม่อาจเสาะหา เพื่อพบว่าหลุมใดกันที่มีความทรงจำดีๆของตนอาศัยอยู่ และตนก็คิดได้ว่า ไม่ได้รู้สึกต้องการหา หรืออยากได้มันกลับมาซึ่งเหล่าความทรงจำทั้งหลาย หัวใจของตนมีเหตุผลที่ไม่คิดหรือจะคิดเสมอ ขอเพียงแค่รู้สึกหัวใจตนก็จะตอบคำถาม แม้บางครั้งหัวใจตนอาจไม่ตอบสนองต่อเรื่องดีๆ ก็เพียงเพื่ออยากจะเก็บเรื่องที่ดีเหล่านั้นไว้ให้แน่นหนา และไม่อยากนำมันมาใช้เพียงเพื่อให้หัวใจเต้นเป็นปกติ
บางสิ่งอาจมีค่ามากขึ้นเพียงแค่ไม่นึกถึงมัน
หัวใจตนนั้นแตกต่าง ตนรู้ และตนเข้าใจ
เมื่อไม่สามารถหาความทรงจำที่ดีเหล่านั้น
ตนจึงอาศัยอยู่กับหัวใจที่เจ็บป่วยอย่างเป็นมิตร และพยายามสนิทกับมัน
สนิทกับหัวใจดวงน้อยๆที่เล็กเพียงกำปั้นมือของเด็กสาว
เด็กสาวที่พบเจอเรื่องราวมากมายที่ใหญ่กว่าหัวใจของตนเอง
และตนเองยอมรับในเรื่องนั้น เรื่องที่ตนเองมีชีวิตอาศัยอยู่ในเรื่องราวที่มีผลกระทบต่อหัวใจ และจะยังคงมีต่อไป เพียงแค่หวังว่าหัวใจนี้จะแกร่งพอรับไหว แม้จะบาดเจ็บอยู่และเต้นขึ้น-ลงไม่สม่ำเสมอ แต่มันก็ยังคงเต้น แม้ไม่เป็นจังหวะเรื่อยมา แต่มันก็ยังคงจะเต้นเรื่อยไป ไปจนถึงวันที่เวลาของตนหมดลง
ทุกเรื่องราวของการเติบโต มีผลต่อหัวใจในกายคน ที่ว่าวันหนึ่งจะมีความสุขนั้น ความคิดนี้เรียกว่าความหวัง ที่ว่าวันนี้เสียใจนั้น ความคิดนี้เรียกว่าผิดหวัง ทุกเรื่องราวมักเดินทางพร้อมกับความรู้สึกเสมอ ผู้ที่โชคดีมีแสงสว่างโอบกอดกายนั้น-หัวใจมักจะเต้นเร็วด้วยความสุขและดีใจ ไม่เคยผิดหวังในเรื่องใดที่ตนรัก และมักไม่เคยสัมผัสความทรมานในด้านลบของชีวิต คนเหล่านี้มีความทรงจำที่สวยงาม อาจน้อยแต่หากมีบ่อยครั้งก็จะทำให้แข็งแรง เอ่อล้นเป็นความทรงจำดีๆ ที่ไม่อาจลบด้วยเรื่องราวร้ายๆที่เล็กน้อยเกินไป หัวใจคนเหล่านี้จะเต้นไปอีกยาวนานในเวลาที่ดีของชีวิต
และตนเองยอมรับในเรื่องนั้น เรื่องที่ตนเองมีชีวิตอาศัยอยู่ในเรื่องราวที่มีผลกระทบต่อหัวใจ และจะยังคงมีต่อไป เพียงแค่หวังว่าหัวใจนี้จะแกร่งพอรับไหว แม้จะบาดเจ็บอยู่และเต้นขึ้น-ลงไม่สม่ำเสมอ แต่มันก็ยังคงเต้น แม้ไม่เป็นจังหวะเรื่อยมา แต่มันก็ยังคงจะเต้นเรื่อยไป ไปจนถึงวันที่เวลาของตนหมดลง
ทุกเรื่องราวของการเติบโต มีผลต่อหัวใจในกายคน ที่ว่าวันหนึ่งจะมีความสุขนั้น ความคิดนี้เรียกว่าความหวัง ที่ว่าวันนี้เสียใจนั้น ความคิดนี้เรียกว่าผิดหวัง ทุกเรื่องราวมักเดินทางพร้อมกับความรู้สึกเสมอ ผู้ที่โชคดีมีแสงสว่างโอบกอดกายนั้น-หัวใจมักจะเต้นเร็วด้วยความสุขและดีใจ ไม่เคยผิดหวังในเรื่องใดที่ตนรัก และมักไม่เคยสัมผัสความทรมานในด้านลบของชีวิต คนเหล่านี้มีความทรงจำที่สวยงาม อาจน้อยแต่หากมีบ่อยครั้งก็จะทำให้แข็งแรง เอ่อล้นเป็นความทรงจำดีๆ ที่ไม่อาจลบด้วยเรื่องราวร้ายๆที่เล็กน้อยเกินไป หัวใจคนเหล่านี้จะเต้นไปอีกยาวนานในเวลาที่ดีของชีวิต
ส่วนผู้ที่โชคร้ายมีแสงสีเทาโอบกอดรอบตัวจนกลายเป็นมิตรที่สนิทนั้น-หัวใจมักจะเต้นเร็วด้วยความกังวล
สับสนและทุรนทุราย พลางทำลายกายตนให้อ่อนแอ ไม่มีแรงแม้แต่จะเคลื่อนไหว
บ้างมีน้ำตาและเดียวดาย มากมายในสิ่งที่ยากเย็น
และรู้จักความเหนื่อยล้าของกาย-หัวใจที่รู้สึกถึงช่องโหว่มากมาย
และอีกมากมายที่หัวใจจะรู้สึกและทำลายตนให้อ่อนแอ
ส่วนคนที่ไม่มีอะไรเลย
คือไม่มีทั้งแสงของสีใดๆสะท้อนออกมายามที่ชีวิตตนมีเรื่องราว
ไร้ความรู้สึกและไม่จริงจังต่อความทรงจำใดๆ
หากจะว่าดีก็ดีต่อหัวใจที่ไม่ต้องทำงานหนัก
หากจะว่าร้ายก็ร้ายต่อหัวใจที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้หัวใจ
เพราะไร้ความรู้สึกจนทำให้การกระทำของตนในแต่ละวันเป็นไปตามความรู้สึกที่เรียกว่า ไม่สนใจ เพราะหัวใจปราศจากความใส่ใจ หากนานวันสิ่งนี้ทำให้เลวร้ายลง มันจึงจะเรียกได้ว่าไร้ค่า กลายเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า รอแค่เพียงเวลาให้หมดลงแล้วค่อยย่อยสลาย
S- คนที่มีหัวใจนั้นกำเนิดมายังคงเท่าเทียมกัน เพียงแต่เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้หัวใจของแต่ละคนเดินทางอยู่ในเรื่องราวที่แตกต่างกัน บางคนนั้นรู้แล้วว่าหัวใจเจ็บป่วย เมื่อหมดทางรักษาทางกาย ก็พยายามเยียวยาตนเองทางใจ คนเหล่านี้พยายามนึก นึกหาถึงช่วงเวลาที่ดีๆของเวลาที่ล่วงเลยผ่านมาแล้ว บางคนอาจพึ่งผ่านมา บางคนอาจผ่านมานานมากแล้ว
S- คนที่มีหัวใจนั้นกำเนิดมายังคงเท่าเทียมกัน เพียงแต่เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้หัวใจของแต่ละคนเดินทางอยู่ในเรื่องราวที่แตกต่างกัน บางคนนั้นรู้แล้วว่าหัวใจเจ็บป่วย เมื่อหมดทางรักษาทางกาย ก็พยายามเยียวยาตนเองทางใจ คนเหล่านี้พยายามนึก นึกหาถึงช่วงเวลาที่ดีๆของเวลาที่ล่วงเลยผ่านมาแล้ว บางคนอาจพึ่งผ่านมา บางคนอาจผ่านมานานมากแล้ว
ซึ่งคนเหล่านี้ส่วนมากความทรงจำที่ดีจะมีเพียงน้อยนิดและห่างไกล
เหมือนอยู่ไกลจนความทรงจำหล่านั้นแทบไม่มีผลต่อหัวใจ
เพียงเพื่อพยายามนึกถึงสิ่งที่ดีมาเยียวยาหัวใจ ก็กลายเป็นความว่างเปล่าสีเทาหม่นที่จำไม่ได้
ทำได้แค่เพียง ยอมรับ และเปิดใจของตนไม่ปิดกั้นใจต่อสิ่งที่ต้องเป็นหรือเป็นอยู่ และสวัดดีความ ชินชา เพื่อสนิทกับมัน หลายคนมักรู้จำคำๆนี้ในความหมายที่ไม่สวยงามนัก ทั้งที่คำๆนี้ได้ช่วยชีวิตของสิ่งมีชีวิตมามากมายและไม่ได้รับคำขอบคุณอย่างที่ควรจะได้รับ หรือเหมาะสม
ทำได้แค่เพียง ยอมรับ และเปิดใจของตนไม่ปิดกั้นใจต่อสิ่งที่ต้องเป็นหรือเป็นอยู่ และสวัดดีความ ชินชา เพื่อสนิทกับมัน หลายคนมักรู้จำคำๆนี้ในความหมายที่ไม่สวยงามนัก ทั้งที่คำๆนี้ได้ช่วยชีวิตของสิ่งมีชีวิตมามากมายและไม่ได้รับคำขอบคุณอย่างที่ควรจะได้รับ หรือเหมาะสม
จงใช้ความชินชาให้ถูกวิธีพราะความชินในอีกมุมหนึ่งคือการยอมรับเพื่อรักษาหัวใจ
เมื่อไม่ปิดกั้นตนเองต่อสิ่งที่ต้องเจอ หัวใจก็จะไม่ต้องทำงานหนักหรือเต้นเร็วเกินไปต่อสิ่งที่ต้องรู้สึก
เพราะความคิดที่อดทนเพื่อชินต่อสิ่งนั้นๆจะช่วยหัวใจที่เจ็บป่วยอยู่ไม่ให้รู้สึกต่อต้านมากจนเกินไป
แต่จะรู้สึกปรับตัวและไตร่ตรอง เพื่อคิด
คิดให้ได้ว่าเมื่อวันนี้อดทนจนยอมรับ และไม่ปิดกั้นต่อสิ่งที่ต้องเจอ
หัวใจอาจจะไม่ต้องฝืนเพราะทนทุกข์มากเกิน
และอาจทำให้มันมีแรงเต้นต่อไปเรื่อยๆ แม้ไม่สม่ำเสมออีกต่อไป
แต่มันก็จะเต้นต่อไป เพิ่มเวลาให้ตนได้อยู่เพียงเพื่อจะได้เห็นสิ่งนั้น
สิ่งนี้ เพียงเพื่อตนจะได้ดู ได้มอง ได้ทำ ได้คิดและสัมผัส
เพียงเพื่อสักวันหนึ่งอาจมีเรื่องราวดีๆที่แม้เพียงเล็กน้อยแวะมานั่งพักไกล้ๆ
ให้ตนได้ดู ให้ตนได้มอง ได้คิด ได้เห็นและสัมผัส
ถึงตอนนั้นตนอาจคิดได้ว่าวันนี้อาจแตกต่าง จากวันนั้น
วันที่ใจยังไม่ได้ยอมรับ แต่วันนี้ยอมรับแล้ว แม้ไม่ได้สุขตลอดไป
แต่จะมีอยู่เพื่อได้เรียนรู้ตลอดไป
ตลอดการเดินทางของคนๆหนึ่งที่มีหัวใจเต้นขึ้น-ลง ไม่สม่ำเสมอ
หากวันนี้หัวใจเจ็บป่วย จงยอมรับ ยอมรับการเยียวยา และจงนึกถึงวันข้างหน้า..
หากวันนี้หัวใจเจ็บป่วย จงยอมรับ ยอมรับการเยียวยา และจงนึกถึงวันข้างหน้า..
......................................................................
©salinsiree
...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น