ฝันร้าย
คือส่วนหนึ่งของชีวิตไซย์
มันไม่เคยแยกจาก หรือออกห่างจนรู้สึกว่ามันกำลังหาย
มีแต่เข้าไกล้และสัมผัสได้จนอดคิดไม่ได้ว่า มันจะไม่มีวันหาย...
เพราะในทุกๆค่ำคืนของเหล่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ ต่างพากันหลับไหล
ไซย์
เธอเป็นมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน หากแต่เธอไม่ได้หลับไหล
หากแต่เธอกำลังวิ่งหนี ความฝัน… และมันคือฝันร้าย
มันสอน-ให้ไซย์ได้รู้สึกหยั่งลึกจนเข้าใจ
ว่าต่อให้หนีความทรงจำที่โหดร้าย หลงลืมความเจ็บปวดที่เคยมีได้แค่ไหน
อย่างไรเสีย มันก็จะมาคอยเตือน
ย้ำให้เธอได้รับรู้และไม่มีวันลืมแม้แต่ในรายละเอียดละเล็กละน้อยของบาดแผล
ทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่ชัดเจนในความฝันของเธอ
ซึ่งมันจะคอยตาม
คอยหลอกหลอน คอยกัดกินและบิดเบี้ยวจิตวิญญาณของไซย์
ราวกับจะแบ่งหัวใจของเธอออกเป็นชิ้นๆ ละเล็กละน้อย
แล้วปล่อยให้ส่วนที่เหลือออกคลานหาไขว่คว้าส่วนที่หาย
จนบางครั้ง ไซย์แยกไม่ออกในความลวงของความฝัน ว่านี่มันจริงหรือไม่ จริง…
เพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้น ยามที่ความฝันเข้าคลอบงำนั้น มันช่างเหมือนจริงเหลือเกิน... เจ็บปวด เดียวดาย ทรมานและไร้หลักแหล่ง
จนแม้ตระหนัก-คิดได้ว่า
“ฉันตื่นแล้ว” แต่ทั้งหมดของความรู้สึกหม่นๆเหล่านั้นกลับยังอยู่
วนเวียนอยู่กับลมหายใจ ราวกับได้กลิ่นไอจากฝันร้ายที่พึ่งผ่านไป
ทั้งสดใหม่ ทั้งตื่นตระหนก ราวกับมันพึ่งเกิด หรือเกิดขึ้นไปแล้วจริงๆ
และมันเป็นเรื่องที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานในทุกๆค่ำคืน
ยามที่เสียงต่างๆค่อยเงียบ และเจือจางลง ยามที่ความมืดค่อยคืบคลาน
รอให้ไซย์กลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน
จน
เมื่อถึงเวลา…
ความมืดได้พาไซย์ดิ่งลงด้วยกันสู่ที่-ที่ลึก เธอบอกความมืดเสมอ
ว่าหากยิ่งดิ่งลงลึก ความสามารถในการหายใจของเธอจะลดลง
แต่ความมืดมักเห็นแก่ตัวห่วงแต่ความพอใจของตน
และหาได้ใส่ใจห่วงใยเธอแม้แต่น้อย มันรอคอย
และเมื่อเห็นไซย์ผู้เป็นเหยื่ออ่อนแอลง มันจึงจู่โจม…
จากนั้นความฝันอันเลวร้ายก็ได้เข้าคลอบงำเธออีกครั้ง... อีกครั้ง และอีกครั้ง
ในทุกๆวันไซย์จะร้องไห้บ่อยเกินไป และเธอยังคงคิดมากเกินไป
เธอยังคงกิน แต่ไม่นอนในเวลาที่ควรนอน จนเมื่อเวลาผ่าน เป็นเดือน เป็นปี หรือหลายปีต่อจากนั้นเธอก็ทรุดลง ทั้งทางกายก็ซูบผอม
มีเพียงเนื้อหนังบางๆปกปิดกระดูก จิตใจถูกบิดเบี้ยว จิตวิญญานมีบาดแผลและไม่เคยได้รับการเยียวยาหรือแก้ไข เป็นอย่างนั้นเรื่อยมา
จนวันหนึ่ง…
“ฉันสนิทกับมันมากขึ้น” ไซย์คิด
“มันคิดว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทของมัน..ความมืดน่ะ” ไซน์ไตร่ตรอง
และพยายามควานหาความกล้าหาญที่ซ่อนอยู่ในส่วนที่ลึก เพื่อให้มันช่วยในเรื่องที่เธอต้องตัดสินใจ…
และในคืนนั้น
เมื่อความมืดค่อยคืบคลาน ไซย์จึงเตรียมตัวเข้านอน
เธอไม่ได้พยายามหนีหรือขัดขืนมากนัก ครั้งนี้เธอรอคอย
ปลดปล่อยตัวตนส่วนที่เหลือทั้งที่ยังดีซึ่งมีน้อยนิด
ทั้งที่เสียหายซึ่งมากเกินไป เธอมอบมันทั้งหมดให้ความมืด
แล้วปล่อยให้มันกลืนกินเธอจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกับมัน ทันใดนั้น..
ไซย์ลืมตาและจ้องมองมัน ความมืดไม่แน่ใจในสิ่งที่เธอทำ และแววตาของความเกลียดชังนั้นคืออะไร จนกระทั่ง…
เธอกลายเป็นผู้ที่พาความมืดดิ่งลงด้วยกันสู่ที่-ที่ลึก
ยิ่งลึก... ความสามารถในการหายใจของเธอจะลดลง เธอเคยบอกและมันจำได้ ก่อนเป็นฝ่ายขัดขืนเพื่อเหนี่ยวรั้งตัวเธอเอาไว้ แต่ก็สายเกินไป…
มันดิ่งลงลึกมากกว่าครั้งไหนๆสำหรับตลอดเวลาที่ผ่านมาของไซย์
เธอทรมาน และทรมานมากขึ้นเมื่อยิ่งดิ่งลงลึกไปอีก.. จนการหายใจเริ่มติดขัด
มากขึ้นๆ..แล้วค่อยน้อยลงๆ...
จนเมื่อมาถึงลมหายใจสุดท้ายซึ่งไซย์ได้มอบมันให้ความมืดเป็นของขวัญ ก่อนเธอจะผละจากมัน และมองดูมันกรีดร้องอยู่อย่างนั้น ตรงนั้น
ขณะเฝ้ามองไซย์ร่วงหล่นต่อไป
และเมื่อลมหายใจสุดท้ายของเธอจากไป ไซย์ก็ได้หลับสนิทอีกครั้ง และครั้งนี้เธอไม่ได้ฝันร้ายอีกเลย
“ฉันได้พักผ่อนแล้ว..."
.
.
.
.
.
.
.
พยายาม
อย่าดูถูกคนที่ฝันร้าย พวกเขาไม่ต้องการหรอก
ความฝันที่มีในทุกๆคืนหรือเมื่อใดก็ตามที่หลับไหล
หากมันจะแย่แล้วทำให้ใจทุกข์จนหม่นหมอง
แต่มันเลือกไม่ได้ที่จะไม่ฝัน ดังนั้นขอให้คนที่ไม่ฝันร้ายจนผิดปกติ
คนที่หลับได้และไม่ทุกข์ใจในการนอนหลับ
หรือการหลับของคุณไม่ได้ทำให้สุขภาพของคุณย่ำแย่
ก็อย่าได้มองผู้ที่ฝันร้ายอยู่เสมอว่าอ่อนแอและเป็นพวกเพ้อไร้สาระเลย
พวกเขาอยากพักผ่อนมาก พวกเขาอยากพัก และหลับให้สนิท
คุณรู้ไหม พวกเขาเหนื่อย
หลายสิ่งมีชีวิต
ที่หาทางออกเพื่อให้ตนได้พักผ่อน จนสุดท้ายพวกเขาก็เจอทางออกเดียว
ที่จะได้พักผ่อน เพียงแต่การพักผ่อนนั้น มันจะยาวนานเหลือเกิน
เพราะพวกเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก
บางคนอาจเป็นที่จดจำ เพราะมีคนที่รักรอบตัว จะมีคนร้องไห้เมื่อพวกเขาจากไป
บางคนอาจถูกหลงลืม และไม่มีใครเอ่ยถึง เพราะไม่มีใครรักหรือเสียใจที่พวกเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก
.
.
...........................................................................................................
🍃🌸🍃🌸🍃🌸🍃
©salinsiree
If you have any questions, or would like to talk, contact me!
salinsiree.witchy@yahoo.com
TWITTER
@sadwitchwriting
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น